MBA Review ตอนที่ 1

12
223

หลังจากที่ได้ร่ำเรียนมาปีกว่าๆ จึงอยากมาแบ่งปันว่าที่ผู้เขียนเรียนไปหนึ่งปีเนี่ย ได้เรียนรู้อะไรไปบ้าง และมีความรู้สึกกับวิชาเหล่านั้นอย่างไรบ้าง

ที่่ผ่านมาผู้เขียนก็ต้องขอบอกเลยว่า การเรียน MBA ช่วยเปิดโลกและมุมมองความคิดของผู้เขียนเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะเรียนเยอะเรียนมากเรียนยาก รายงานเพียบ ก็ตาม อย่างไรก็ดีมีบางวิชาที่ผู้เขียนรู้สึกว่า จะเรียนไปทำไมฟระ แต่อย่างว่านี่คือหลักสูตรบริหารธุรกิจ ดังนั้นมันเป็นการเรียนภาพรวมของธุรกิจทั้งหมด ซึ่งก็เหมาะสมกับผู้ที่ยังไม่รู้จะทำธุรกิจด้านไหน (อย่างเช่นผู้เขียน) ที่ทำให้ได้เห็นโลกธุรกิจในด้านต่างๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่า

ภาพรวม
โดยภาพรวมแล้วผู้เขียนรู้สึกว่า การเรียน MBA ตอบโจทย์หลายอย่างในใจผู้เขียน ถึงแม้บางวิชาจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ อย่าง พวกบัญชี แต่ก็ได้ประโยชน์มากมาย เพราะมันเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจเลยทีเดียว โดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่า รายวิชาต่างๆ ทั้งวิชาบังคับ และวิชาเลือก มีความกลมกล่อมเหมาะสม สำหรับหลักสูตร MBA ได้อย่างดีทีเดียว แต่ก็มีบางส่วนที่รู้สึกว่าเนื้อหาจะเก่า ไปสักนิด อาทิเช่น ในหลายๆ วิชาจะเน้นยกตัวอย่างหรือกรณีศึกษา หนักไปที่ Manufacturing ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการลงบัญชี การทำ Inventory การคิดคำนวณต้นทุนต่างๆ ฯลฯ ซึ่งผู้เขียนมองว่า Manufacturing เป็นอะไรที่เกือบจะครองโลกเมื่อเกือบทศวรรษ หรือ สองทศวรรษที่แล้ว แต่ในปัจจุบัน มีองค์กรเกิดใหม่มากมายที่ไม่ใช่โรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจบริการ ธุรกิจที่ปรึกษา ธุรกิจเทคโนโลยี รวมถึงซอฟต์แวร์ต่างๆ ดังนั้นแล้วควรมีการให้เนื้อหา ตัวอย่าง และกรณีศึกษา สำหรับ ธุรกิจเหล่านั้น หรือ ธุรกิจที่ไม่ใช่ Manufacturing มากขึ้น ก็จะดีมาก (ประเด็นนี้อาจเป็นประเด็น Bias เนื่องจากผู้เขียนเองทำงานทางด้านซอฟต์แวร์)
 

Managerial Accounting (2601515)

    เนื้อหา: ลักษณะของการบัญชีบริหาร พฤติกรรมต้นทุนและความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน ปริมาณและกำไร การต้นทุนรวม การต้นทุนแปรได้ การต้นทุนมาตรฐานและการวิเคราะห์ผลต่างของต้นทุนการผลิต การใช้สารสนเทศทางการบัญชีเพื่อการตัดสินใจ การใช้สารสนเทศทางบัญชีเพื่อการควบคุม การบัญชีตามความรับผิดชอบ การงบประมาณ การรายงานและการวิเคราะห์ผลการปฏิบัติงาน

    ความเห็นผู้เขียน: เป็นวิชาที่ก่อนเรียนกลัวที่สุด เพราะไม่เคยมีความรู้เรื่องบัญชีเลย ทำไมต้องลงเดบิต เครดิต คีย์ลงซอฟต์แวร์ไม่ได้เหรอ?? แต่พอเรียนไปเรื่อยๆ กอปรกับเริ่มมีส่วนที่เป็นคำนวณ ก็เริ่มเข้าทางมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราได้เห็นว่าไอ้ที่เรากับเพื่อนๆ เราทำงานกันงกๆ อยู่ทุกวัน มันจะสะท้อนออกมาเป็น ต้นทุนและกำไรได้อย่างไร ทำให้ผู้เขียนเข้าใจภาพกว้างของการคิดคำนวณต้นทุนต่างๆ มากขึ้น การจะเลือกทำอะไรสักอย่างมีต้นทุน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าทางเลือกไหนจะให้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด และกำไรมากที่สุด ในระยะเวลาที่เหมาะสม(เรายอมรับได้) วิชานี้หนังสือเท็กซ์บุคดีมาก เพาว์เวอร์พ็อยต์ดีมาก อ่านรอบเดียวก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี

    อุปมาเป็นการดูหนัง:
    หนังอะไรอะ ไม่อยากดูเลย ว้ากกก ทำไมต้องบังคับดูด้วย
    ………………..
    อืมมม เรื่องนี้ดีนะ ใช้ได้เลยทีเดียว

 

Leadership and Organizational Behaviors (2602613)

    เนื้อหา: ทฤษฎีภาวะผู้นำ รูปแบบภาวะผู้นำ บทบาทของผู้นำในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในองค์การ จริยธรรมของผู้นำ รวมถึงแนวคิดพฤติกรรมมนุษย์และหลักปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพของบุคคลในองค์การ วิธีการจัดการในระดับปัจเจกบุคคล ระดับกลุ่ม และระดับองค์กร แนวความคิดและทฤษฎีการจูงใจ อำนาจและอิทธิพล พฤติกรรมกลุ่ม การตัดสินใจ การจัดการความขัดแย้งและการประสานความร่วมมือ การออกแบบโครงสร้างองค์กร วัฒนธรรมขององค์กร หัวข้อปัจจุบันในงานวิจัยภาวะผู้นำและพฤติกรรมองค์การ

    ความเห็นผู้เขียน: วิชานี้เป็นหนึ่งในวิชาที่มีรูปแบบการเรียนแบบปริญญาโทในอุดมคติในความคิดผู้เขียนมากที่สุดวิชาหนึ่ง คือมีการทำกรณีศึกษาที่ดูจริงจัง แต่ละกลุ่มทุ่มเทกันเต็มที่ ได้ความรู้มากมาย มีการ termpaper ที่เข้มข้น วิเคราะห์กันอย่างจริงจัง ได้เข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์มากขึ้น รวมไปถึงทฤษฏีการจูงใจคนที่เหมาะสมกับบุคคล และสถานการณ์ การจัดโครงสร้างองค์กร วัฒนธรรมองค์กร ถ้าใครได้ทำงานมาประมาณหนึ่ง แล้วได้มีโอกาสมาเรียนวิชานี้ จะเข้าใจอะไรหลายๆอย่างที่บริษัทเราทำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การประเมินผลการปฏิบัติงาน การจัดกิจกรรมนอกสถานที่ การจ่ายผลตอบแทนที่เหมาะสม ฯลฯ

    อุปมาเป็นการดูหนัง:
    เฮ้อ ไม่อยากดูเลยหนังดราม่า ยาวยืดแบบนี้ เมื่อยตรูดดด
    ………………………………..
    อืมม ตรงกับชีวิตตรูนะ ถ้าไม่ได้ดู คงไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นทำกับเรา อืมม

 

Statistics for Business Administration (2603532)

    เนื้อหา: สถิติและบทบาทของสถิติในธุรกิจ สถิติกับการตัดสินใจทางธุรกิจ แนวคิดของสถิติในธุรกิจและประเภทของข้อมูลธุรกิจ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ สถิติเชิงพรรณนา สถิติเชิงอนุมาน การวิเคราะห์ความถดถอยและสหสัมพันธ์ การวิเคราะห์อนุกรมเวลาและตัวเลขดัชนี การวิเคราะห์ข้อมูลแจงนับ การวิเคราะห์ข้อมูลแบบไม่ใช้พารามิเตอร์ เทคนิคการจับกลุ่ม

    ความเห็นผู้เขียน: วิชานี้เป็นวิชาที่ผู้เขียนหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างมากว่าจะได้ประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในการนำความรู้ทางสถิติ ไปประยุกต์ใช้ (อาจเป็นเพราะผู้เขียนจบ ป.ตรีด้านคำนวณ และเคยไปสอนเรื่องสถิติให้น้องม.ปลาย และ ป.ตรีอยู่บ้าง) แต่ปรากฏว่ารูปแบบการเรียนคล้ายป.ตรี อยู่มาก คือ เรียนๆๆๆ จำสูตรๆๆๆ ไปสอบ แค่นั้น!!! มีการนำไปประยุกต์ใช้ในกรณีศึกษาค่อนข้างน้อยกว่าที่ผู้เขียนคาดหวังมาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าพื้นฐานของผู้เรียน MBA ไม่เหมือนกัน ถ้ามาสอนสถิติแบบประยุกต์เลย หลายๆคนอาจรับไม่ไหว (รึป่าว) [แต่ได้ข่าวว่าอีกเซกชั่นนึงก็เรียนประยุกต์เยอะนี่นา] ผู้เขียนจึงรู้สึกว่าเหมือนเป็นการเรียนปรับพื้นฐานก่อนที่จะนำความรู้ทางด้านสถิติไปใช้กับวิชาอื่นนั่นเอง

    อุปมาเป็นการดูหนัง:
    หนังเรื่องนี้น่าดูมากๆ รอมานานแล้ว ต้องไม่พลาด
    ………………………………..
    เอ่อ มีแต่เทคนิค ไม่มีพล็อตเรื่องเรยยยย …….. “ช้างตรูอยู่หนายยย”

 
ตามต่อตอนที่ 2 นะครับ รักคนอ่าน จุ๊บๆ

12 COMMENTS

  1. วิชาแรก MNGL: วิชาไรอะ ช๊อบ ชอบ
    OB: วิชาไรอะ ดูเข้าใจยาก ก็มนุษย์เป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุดอะเน้อ ดังนั้น ก้ต้องเรียนกันไป
    STAT: อะไรอะ ไม่แนวเรย เอาไปใช้ทำไรฟระ แต่แล้ววิชาอื่นๆ มาพาดพิงถึงหมด โอะ โอ ระดับความเชื่อมั่น 0% ฮ่าๆๆๆ

    แต่การเรียน MBA ก็ทำให้ได้เปิดโลกอีกนิดนะ ไม่งั้นชีวิตคงมีแต่ไรเดิมๆ น่ะ

    ออกตอนที่ 2 มาเร็ว จะได้อ่านต่อ ^^

  2. Hi my friend!!! Long time no talk and see. Hope u r fine. I see you promote ur website for a while but i never have a chance to check it out!!! So, this is the first day to view this site and i decide to choose MBA forum cos wanna know how mba course in thailand is. I strongly agree with u that mba helps me to open my eyes my mind. It makes me understand more how the business world is although some subjects im really not into it.
    Anyway, u have done well. keep going my friend. im waiting for part II.

    PS. i feel a little bit wierd when i see the word “ผู้เขียน”. I dont know what is ur reason in deep. i just feel that there is the distance btw author and readers because it looks too formal (for me) and it’s just my thought.

    Sorry for a pretty long writing. however, thanks a lot for reading until the end. ;P

  3. Hi Aberdeen…..

    Long time no talk and see. How are you over there? Are there any cute, sexy, blonde girls there? If so, find me the hottest one !!! lol
    When will you come back here?

    Thanks for reading my blog. Since you’re one of my best friends, I already forced you to subscribe my blog hahaha lol. Please go confirm it via your email.

    See you soon.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here